Hedging คืออะไร? เข้าใจง่ายสำหรับทุกคน
Hedging (เฮดจิ้ง) หมายถึง การป้องกันความเสี่ยง จากความผันผวนของราคา โดยการเปิดสถานะตรงข้ามกับพอร์ตที่มีอยู่ เพื่อลดโอกาสขาดทุน
ถ้าอธิบายให้เห็นภาพง่าย ๆ Hedging ก็เหมือนกับ การซื้อประกัน
• สมมติคุณมีรถยนต์ราคาแพง แล้วกลัวว่ามันจะเสียหาย คุณเลยซื้อประกันรถยนต์
• ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น = คุณเสียค่าประกันไปฟรี ๆ
• แต่ถ้ารถชน = ประกันจะช่วยจ่ายค่าเสียหาย
ในตลาดคริปโต การ Hedge ก็ทำหน้าที่คล้าย ๆ กัน คือช่วยป้องกันพอร์ตของคุณจากการขาดทุนหนัก ถ้าราคาตลาดวิ่งไปในทิศทางที่ไม่ต้องการ
วิธีการทำ Hedging ในตลาดคริปโต
1. Hedge โดยใช้ Futures (ง่ายและนิยมที่สุด)
✅ หลักการ: ถ้าคุณถือ BTC อยู่ในพอร์ต (Spot) และกลัวว่าราคาจะร่วง → เปิด Short BTC ใน Futures เพื่อชดเชยการขาดทุน
🔹 ตัวอย่าง:
• คุณมี 1 BTC ที่ราคา $70,000 ในกระเป๋า Spot
• คุณกลัวว่า BTC จะร่วงลงไปที่ $60,000
• คุณเปิด Short BTC Futures ที่ราคา $70,000 ด้วยมูลค่าเท่ากับ BTC ที่ถืออยู่
📉 ถ้า BTC ร่วงไป $60,000
• พอร์ต Spot ขาดทุน $10,000
• แต่สถานะ Short ใน Futures ได้กำไร $10,000
• สรุปแล้ว พอร์ตโดยรวมของคุณไม่เสียหาย
📈 ถ้า BTC วิ่งไป $80,000
• พอร์ต Spot กำไร $10,000
• แต่ Short Futures ขาดทุน $10,000
• สรุปแล้ว Hedge ทำให้คุณไม่ได้กำไร แต่ก็ไม่ขาดทุน
🟢 เหมาะกับ:
• คนที่ ถือ BTC ไว้เยอะ ๆ แต่กลัวว่าตลาดจะลงชั่วคราว
• ช่วงที่ตลาดผันผวน และยังไม่แน่ใจว่าควรขาย BTC ออกไปดีไหม
2. Hedge โดยใช้ Perpetual Futures (Perp) และ Spot Trading
✅ หลักการ: ซื้อ Spot และเปิด Short ใน Perp เพื่อรับ Funding Fee
🔹 ตัวอย่าง:
• คุณซื้อ 1 BTC ที่ราคา $70,000 ใน Spot
• คุณเปิด Short BTC Perp ที่ราคา $70,000 ในจำนวนเท่ากัน
• ถ้า Funding Rate เป็น บวก → คนที่ Short จะได้รับเงิน
• คุณจะได้เงินจาก Funding Fee โดยที่ราคาจะไม่กระทบกับพอร์ต
🟢 เหมาะกับ:
• ตลาดที่มี Funding Rate สูง และคุณอยากทำกำไรจากค่าถือสถานะ
• คนที่ต้องการถือ BTC ใน Spot แต่ก็อยากลดความเสี่ยงจากราคาที่ร่วง
3. Hedge โดยใช้ Options (Advanced แต่ได้ผลดี)
✅ หลักการ: ใช้ Put Options เพื่อป้องกันการขาดทุนจากการร่วงของราคา
🔹 ตัวอย่าง:
• คุณมี 1 BTC ที่ราคา $70,000
• คุณซื้อ Put Option ที่ Strike Price $70,000 โดยจ่าย Premium (สมมติ $500)
• ถ้า BTC ร่วงไปที่ $60,000 คุณสามารถใช้ Option นี้ขาย BTC ที่ราคา $70,000 ได้
• คุณขาดทุนแค่ค่าประกัน $500 แทนที่จะขาดทุน $10,000
🟢 เหมาะกับ:
• คนที่ ไม่อยากใช้ Leverage และต้องการป้องกันขาดทุนแบบจำกัด
• การลงทุนระยะยาว โดยจ่ายค่าประกัน (Premium) ไว้ลดความเสี่ยง
Hedging ใช้ตอนไหนดีที่สุด?
1️⃣ ตลาดขาขึ้น (Bull Market) → ไม่ต้อง Hedge ถ้าคุณมั่นใจว่าราคาจะขึ้นไปเรื่อย ๆ
2️⃣ ตลาด Sideway หรือมีข่าวลบ → ใช้ Futures หรือ Perp เพื่อ Hedge ชั่วคราว
3️⃣ ตลาดขาลง (Bear Market) → ใช้ Short Futures หรือ Put Options ป้องกันพอร์ต
สรุปสั้น ๆ
✅ Hedge ด้วย Futures → ง่ายและใช้บ่อยที่สุด (Short Futures ป้องกันความเสี่ยง)
✅ Hedge ด้วย Perp & Spot → ได้กำไรจาก Funding Rate
✅ Hedge ด้วย Options → คล้ายซื้อประกัน ลดขาดทุนจากการร่วงหนัก
Hedging ทำให้คุณนอนหลับสบายขึ้น ไม่ต้องกังวลกับความผันผวนของตลาด!
นี่คืออินโฟกราฟิกที่อธิบายแนวทางการทำ Hedging ในตลาดคริปโต มีทั้ง Hedging ด้วย Futures, Perpetual Futures และ Options เพื่อให้เห็นภาพการทำงานชัดขึ้น!
ลองดูว่าเข้าใจตรงจุดไหน หรืออยากให้ปรับเพิ่มเติมตรงไหนบอกได้เลย!
Hedging คืออะไร? เข้าใจง่ายสำหรับทุกคน
Hedging (เฮดจิ้ง) หมายถึง การป้องกันความเสี่ยง จากความผันผวนของราคา โดยการเปิดสถานะตรงข้ามกับพอร์ตที่มีอยู่ เพื่อลดโอกาสขาดทุน
ถ้าอธิบายให้เห็นภาพง่าย ๆ Hedging ก็เหมือนกับ การซื้อประกัน
• สมมติคุณมีรถยนต์ราคาแพง แล้วกลัวว่ามันจะเสียหาย คุณเลยซื้อประกันรถยนต์
• ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น = คุณเสียค่าประกันไปฟรี ๆ
• แต่ถ้ารถชน = ประกันจะช่วยจ่ายค่าเสียหาย
ในตลาดคริปโต การ Hedge ก็ทำหน้าที่คล้าย ๆ กัน คือช่วยป้องกันพอร์ตของคุณจากการขาดทุนหนัก ถ้าราคาตลาดวิ่งไปในทิศทางที่ไม่ต้องการ
วิธีการทำ Hedging ในตลาดคริปโต
1. Hedge โดยใช้ Futures (ง่ายและนิยมที่สุด)
✅ หลักการ: ถ้าคุณถือ BTC อยู่ในพอร์ต (Spot) และกลัวว่าราคาจะร่วง → เปิด Short BTC ใน Futures เพื่อชดเชยการขาดทุน
🔹 ตัวอย่าง:
• คุณมี 1 BTC ที่ราคา $70,000 ในกระเป๋า Spot
• คุณกลัวว่า BTC จะร่วงลงไปที่ $60,000
• คุณเปิด Short BTC Futures ที่ราคา $70,000 ด้วยมูลค่าเท่ากับ BTC ที่ถืออยู่
📉 ถ้า BTC ร่วงไป $60,000
• พอร์ต Spot ขาดทุน $10,000
• แต่สถานะ Short ใน Futures ได้กำไร $10,000
• สรุปแล้ว พอร์ตโดยรวมของคุณไม่เสียหาย
📈 ถ้า BTC วิ่งไป $80,000
• พอร์ต Spot กำไร $10,000
• แต่ Short Futures ขาดทุน $10,000
• สรุปแล้ว Hedge ทำให้คุณไม่ได้กำไร แต่ก็ไม่ขาดทุน
🟢 เหมาะกับ:
• คนที่ ถือ BTC ไว้เยอะ ๆ แต่กลัวว่าตลาดจะลงชั่วคราว
• ช่วงที่ตลาดผันผวน และยังไม่แน่ใจว่าควรขาย BTC ออกไปดีไหม
2. Hedge โดยใช้ Perpetual Futures (Perp) และ Spot Trading
✅ หลักการ: ซื้อ Spot และเปิด Short ใน Perp เพื่อรับ Funding Fee
🔹 ตัวอย่าง:
• คุณซื้อ 1 BTC ที่ราคา $70,000 ใน Spot
• คุณเปิด Short BTC Perp ที่ราคา $70,000 ในจำนวนเท่ากัน
• ถ้า Funding Rate เป็น บวก → คนที่ Short จะได้รับเงิน
• คุณจะได้เงินจาก Funding Fee โดยที่ราคาจะไม่กระทบกับพอร์ต
🟢 เหมาะกับ:
• ตลาดที่มี Funding Rate สูง และคุณอยากทำกำไรจากค่าถือสถานะ
• คนที่ต้องการถือ BTC ใน Spot แต่ก็อยากลดความเสี่ยงจากราคาที่ร่วง
3. Hedge โดยใช้ Options (Advanced แต่ได้ผลดี)
✅ หลักการ: ใช้ Put Options เพื่อป้องกันการขาดทุนจากการร่วงของราคา
🔹 ตัวอย่าง:
• คุณมี 1 BTC ที่ราคา $70,000
• คุณซื้อ Put Option ที่ Strike Price $70,000 โดยจ่าย Premium (สมมติ $500)
• ถ้า BTC ร่วงไปที่ $60,000 คุณสามารถใช้ Option นี้ขาย BTC ที่ราคา $70,000 ได้
• คุณขาดทุนแค่ค่าประกัน $500 แทนที่จะขาดทุน $10,000
🟢 เหมาะกับ:
• คนที่ ไม่อยากใช้ Leverage และต้องการป้องกันขาดทุนแบบจำกัด
• การลงทุนระยะยาว โดยจ่ายค่าประกัน (Premium) ไว้ลดความเสี่ยง
Hedging ใช้ตอนไหนดีที่สุด?
1️⃣ ตลาดขาขึ้น (Bull Market) → ไม่ต้อง Hedge ถ้าคุณมั่นใจว่าราคาจะขึ้นไปเรื่อย ๆ
2️⃣ ตลาด Sideway หรือมีข่าวลบ → ใช้ Futures หรือ Perp เพื่อ Hedge ชั่วคราว
3️⃣ ตลาดขาลง (Bear Market) → ใช้ Short Futures หรือ Put Options ป้องกันพอร์ต
สรุปสั้น ๆ
✅ Hedge ด้วย Futures → ง่ายและใช้บ่อยที่สุด (Short Futures ป้องกันความเสี่ยง)
✅ Hedge ด้วย Perp & Spot → ได้กำไรจาก Funding Rate
✅ Hedge ด้วย Options → คล้ายซื้อประกัน ลดขาดทุนจากการร่วงหนัก
Hedging ทำให้คุณนอนหลับสบายขึ้น ไม่ต้องกังวลกับความผันผวนของตลาด!
นี่คืออินโฟกราฟิกที่อธิบายแนวทางการทำ Hedging ในตลาดคริปโต มีทั้ง Hedging ด้วย Futures, Perpetual Futures และ Options เพื่อให้เห็นภาพการทำงานชัดขึ้น!
ลองดูว่าเข้าใจตรงจุดไหน หรืออยากให้ปรับเพิ่มเติมตรงไหนบอกได้เลย!